Ghibli Lover

Studio Ghibli's Animation Story teller

วันเสาร์, ตุลาคม 22, 2548

Kiki's Delivery Service (แม่มดน้อยมหัศจรรย์)

แนว(genre) : การ์ตูนแฟนตาซี
ผู้เขียนบท : Hayao Miyasaki (ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ผู้กำกับ : Hayao Miyasaki (ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ความยาว : ประมาณ 103 นาที

ตามธรรมเนียมของแม่มด เมื่อพวกหล่อนอายุครบ 13 ปี จะต้องออกไปใช้ชีวิตในเมืองที่ไม่มีแม่มดอาศัยอยู่เพื่อเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น กิกี้(KIKI) ก็เช่นเดียวกัน เธอออกเดินทางพร้อมกับ จิจี้ แมวดำจอมจ้อ มายังเมืองริมทะเล โดยเริ่มต้นชีวิตวัย 13 ด้วยการเปิดร้านรับส่งของทางอากาศ และวิธีที่เธอใช้ส่งของก็คือการขี่ไม้กวาดนั่นเอง แต่แน่ล่ะ การใช้ชีวิตกับคนธรรมดาแถมยังแปลกหน้าเสียอีก ต้องทำให้การดำเนินชีวิตของเธอต้องเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน เวทมนตร์ที่ติดตัวมาจะช่วย กิกี้ ได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องติดตามดูครับ

สำหรับเรื่อง Kiki's Delivery Service ออกฉายในปี 1989 ดัดแปลงมาจากหนังสือนิทานสำหรับเด็กซึ่งแต่งโดย เอโกะ คาดาโน แปลเป็นไทยแล้วโดย นภสิริ ครับ ดูได้ที่ http://www.neoedu.co.th/Kiki.htm ปัจจุบันมีเล่ม Kiki's Delivery Service มีเล่มต่อออกมาแล้วโดยผู้เขียนคนเดิม แต่ยังไม่มีฉบับแปลเป็นไทยครับ

แม้เนื้อเรื่องบางตอนในการ์ตูนจะไม่เหมือนในหนังสือนักแต่ยังคง Theme ของเรื่องที่มุ่งเน้นในเรื่องการสอนเด็กๆที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นได้เป็นอย่างดี

วันอังคาร, ตุลาคม 18, 2548

My Neighbor Totoro

แนว(genre) : การ์ตูนกึ่งแฟนตาซี
ผู้เขียนบท : Hayao Miyasaki (ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ผู้กำกับ : Hayao Miyasaki (ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ความยาว : ประมาณ 86 นาที

ในช่วงแรกที่ My Neighbor TOTORO (โตโตโระ) ออกฉายในญี่ปุ่น พร้อมกับGrave Of The Fireflies ก็ดูจะไม่ค่อยทำเงินเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับ Animation เรื่องก่อนหน้านั้น ตรงกันข้าม ของชำร่วยเช่น ตุ๊กตาโตโตโระ ตุ๊กตารถบัสแมวเหมียว กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และ โตโตโระ ได้กลายมาเป็นเครื่องหมายการค้าในของ Studio Ghibli ในเวลาต่อมา สิ่งที่ มิยาซากิ นำเสนอใน TOTORO ในแง่ความผูกพันระหว่าง สัตว์หน้าตาประหลาดแสนใจดี กับเด็กน้อย 2 คนก็สามารถสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้ไม่ลืมเลือน
My Neighbor TOTORO เป็นเรื่องราวที่พูดถึง ซัตสึกิ และเมย์ น้องสาววัย 4-5 ขวบ ที่เพิ่งย้ายบ้านมาอยู่นอกเมืองใหญ่พร้อมกับพ่อ ในขณะที่ แม่ที่ป่วยยังต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาล พ่อของเด็ก ๆ แม้ว่าจะดูเอาใจใส่เลี้ยงดูเด็กทั้งสองดีแต่ด้วยภาระที่ต้องเป็นเสาหลักหาเลี้ยงดูครอบครัว จึงมีเวลาไม่มากนักให้กับเด็ก ๆ จึงเป็นหน้าที่ของ ซัตสึกิ ที่ต้องดูแลน้องสาววัยซนเมื่อพ่อต้องทำงาน


วันหนึ่ง ทั้งคู่ได้เข้าไปในป่าข้างบ้านและพบเจอกับ โตโตโระ สัตว์ใจดีหน้าตาประหลาดคล้ายแร็คคูนผสมนกฮูกและแมว ซึ่งเป็นเสมือนเทพพิทักษ์ป่า ที่นั่นความสัมพันธ์ที่งดงามระหว่างสัตว์ใจดีกับเด็กแสนซื่อก็เริ่มขึ้น เด็กทั้งคู่ได้เรียนรู้สิ่งที่ดีงามจาก โตโตโระ แม้ว่าหนังจะไม่บอกเราโดยตรงแต่ การแสดงออกของเทพพิทักษ์ป่าและเด็กทั้งคู่ ทำให้เราซึมซับความประทับใจนั้นได้ หนังเดินมาจนถึง Climax สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงไมตรีของ โตโตโระ ที่ยินดีให้ ซัตสึกิ นั่งรถบัสเหมียวยักษ์เพื่อตามหาน้องสาวที่หลงทางในป่าจนพบในที่สุด

วันจันทร์, ตุลาคม 17, 2548

Grave of the Fireflies (สุสานหิ่งห้อย)

แนว(genre) : การ์ตูนชีวิตรันทดมาก..
ผู้เขียนบท : อิซาโอะ ทากาฮาตะ (Isao Takahata)
ผู้กำกับ : อิซาโอะ ทากาฮาตะ (Isao Takahata)
ความยาว : ประมาณ 88 นาที

หนังอิงเหตุการณ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ปี 1945 ที่เมืองโกเบ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากสงครามต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพื่อเอาตัวรอด ไม่เว้นแม้แต่ เซตะ เด็กหนุ่มวัย 14 ที่ต้องดูแล เซตสุโกะ น้องสาววัย 5 ขวบ ทั้งคู่ต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่จากไฟสงคราม และจำต้องไปอยู่กับญาติห่างๆที่เอารัดเอาเปรียบ จนทั้งคู่ต้องไปหาที่อยู่ใหม่ในถ้ำแคบๆ ใต้เนินเขา

ในภาวะสงครามเป็นยุคข้าวยากหมากแพง ทั้งคู่ไม่มีเงินทองพอจะหาซื้ออาหาร เซตะ พยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำให้น้องสาวของตนเองมีความสุข ไม่ต้องอดๆอยากๆ แม้เป็นขโมยก็ยอม แต่โชคชะตาไม่เคยเข้าข้างทั้งคู่ เหตุการณ์ที่ เซตะ ต้องเผชิญต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามดูใน สุสานหิ่งห้อย. แต่ขอเตือนก่อนนะครับว่า หา ทิชชู่มาไว้ข้างๆ เพราะเรื่องนี้จะทำให้น้ำตาคุณซึมได้เกือบตลอดเรื่อง … ขนาดที่ว่าตอนที่พอยิ้มได้ยังต้องยิ้มทั้งน้ำตา(blog comment : อะไรจะขนาดนั้น)

สุสานหิ่งห้อย เดิมเป็นนิยายกึ่งอัตชีวประวัติของ อากิยูกิ โนะซากะ เขียนขึ้นเพื่อชดเชยความรู้สึกที่ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุที่ให้น้องสาวต้องเสียชีวิตเพราะโรคขาดสารอาหาร และอิซาโอะ ทากาฮาตะ ผู้กำกับและหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Ghilbli เป็นผู้ที่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพ แม้จะเป็นการ์ตูนแต่ก็ได้รับการยอมรับว่า มีความซื่อตรงต่อบทประพันธ์เดิมสูงมาก

วันอาทิตย์, ตุลาคม 16, 2548

Laputa : Castle in the sky(ปราสาทลอยฟ้า)


แนว(genre) : การ์ตูนผจญภัยแฟนตาซี
ผู้เขียนบท : Hayao Miyasaki(ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ผู้กำกับ : Hayao Miyasaki(ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ความยาว : ประมาณ 124 นาที

เหนือขึ้นไปบนท้องฟ้า ยังมีเกาะลอยฟ้า.. และนั่นคือหนึ่งในการ ผจญภัยของกัลล์ลิเวอร์ จากหนังสือ Jonathan Swift’s Gulliver Adventure ซึ่งเป็นแรงบันดาลในการสร้าง Laputa : Castle in the sky ของ มิยาซากิ

การผจญภัยครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อ หนุ่มน้อย ปาซู ได้ช่วยชีวิต ซีต้า สาวน้อยที่ตกลงมาจากฟ้าพร้อมจี้ที่ห้อยอยู่คอ จี้นี้เอง เป็นสิ่งที่ไขความลับของ ปราสาทลอยฟ้า ลาปิวต้า ทั้งคู่จึงร่วมกันออกค้นหาความลับนั้น แต่ใช่ว่า หนทางสู่คำตอบแห่งปริศนา จะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ทั้งคู่ต้องเผชิญกับ โจรสลัด สายลับและอุปสรรคนานัปการที่คอยปิดกั้นให้ทั้งคู่ไขปริศนาของ ปราสาทลอยฟ้า

ไม่มีคำจำกัดความใดมากไปกว่าคำว่า งดงาม.ตระการตา..ประทับใจครับ ใครรักผลงานของ Studio นี้ ซื้อไปเถอะครับ จะอีกนานแค่ไหน เราจะได้ดู Hand-Made Animation ที่ลงสีด้วยมือแบบนี้ เพราะปัจจุบัน CG (Computer Generated Animation) หรือการทำAnimation ด้วยคอมพิวเตอร์มีบทบาทสูงมาก และนักAnimator ยุคใหม่เค้าก็หันมาใช้ CG กันหมดแล้วไม่เว้นแม้ Studio Ghibli ยุคหลัง

Nausicaa of the valley of the wind (นาอุซิกะ แห่งหมู่บ้านสายลม)

แนว(genre) : การ์ตูนผจญภัยแฟนตาซี
ผู้เขียนบท : Hayao Miyasaki(ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ผู้กำกับ : Hayao Miyasaki(ฮายาโอะ มิยาซากิ)
ความยาว : ประมาณ 116 นาที

จากหนังสือการ์ตูนความยาว 7 เล่มโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ กลายมาเป็นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาวออกฉายในญี่ปุ่นปี 1984

นาอุซิกะ แห่งหมู่บ้านสายลม บอกเล่าเรื่องราวในช่วง 1000 ปีหลังการล่มสลายของอารยธรรมมนุษย์ ในยุคที่โลกถูกปกคลุมด้วยสนิมและผลึกทราย ป่าพิษได้แผ่ขยายออกไปพร้อมปล่อยสารพิษที่ค่อยๆขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มีเพียง หมู่บ้านหุบเขาสายลม ที่ยังคงสภาพธรรมชาติสำหรับมนุษย์เอาไว้ หมู่บ้านแห่งนี้อยู่ภายใต้การนำของ เจ้าหญิง นาอุซิกะ ผู้ซึ่งอุทิศตนเพื่อรักษา ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ และหยุดยั้งการอาณาจักรโทรุเมเกียจากการทำลายป่าพิษซึ่งจะส่งผลให้ โอมุ หนอนยักษ์ ซึ่งเป็นแมลงพิทักษ์ป่าพิษออกจากป่าพิษมาทำลายผืนแผ่นดินมนุษย์อีกครั้ง

หนังแนะนำครับ ดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ใครที่ไม่เคยรู้จักผลงานของค่ายสตูดิโอ จิบบลี่ในยุคก่อน Spirited Away และ Princess Mononoke ก็ลองสั่งซื้อไปดูครับ จะได้เห็นถึงความประณีตในการทำการ์ตูนเรื่องยาวโดยไม่มีComputer มาเกี่ยวข้องเลย เค้าใช้แผ่นเซลทำการ์ตูนรวมทั้งสิ้น 56,078 เซล ภาพที่ได้ให้ความรู้สึกของการ์ตูนhand-made แท้ๆ แต่เนื้อหาเบียดจินตนาการแต่ใกล้ตัวครับ บอกแล้วว่าต้องซื้อ แล้วคุณจะรู้จัก Studio Ghilbi มากขึ้น

Once Upon A time - Ghibli Studio


Ghili Lover - Blog ที่ผมอยากเก็บบันทึกเนื้อเรื่องและรายละเอียดของ Animation ของ Studio Ghibli ที่เคยเขียนเพื่อบรรยายตัว DVD ที่ผมเคยขายใน E-Marketplace แห่งหนึ่งของไทย แต่ปัจจุบันได้ปิดร้านไปแล้วแต่ไม่อยากให้สิ่งที่ผมเขียนขึ้นสูญหายไปเลย เขียน blog นี้ขึ้นมาสิ่งที่บรรยายในหนังแต่ละเรื่องที่นำมาลง เป็นคำบรรยายที่ในครั้งนั้นถูกเขียนออกมาเพื่อใช้บอกเรื่องราวในหนังเป็นลักษณะกึ่งเชิญชวน จึงอาจจะมีถ้อยคำบางคำดู 'เว่อร์ ไปบ้างแต่มันคือบันทึกที่ไม่ดัดแปลงเพราะอยากบันทึกไว้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยหลงใหลการ์ตูนจาก Ghibli ขนาดไหน
Remark : Studio Ghibli LOGO is taken from
http://www.ntv.co.jp/ghibli